วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

วิธีการเปลี่ยนจอ LCD Notebook เครดิตเว็บ www.bga-reworks.com/


วิธีการเปลี่ยนจอ LCD Notebook
ขั้นตอนแรกเลยนะครับสำหรับการถอดเปลี่ยนจอ LCD ให้ถอดแบตเตอรี่ รวมถึงแหล่งจ่ายไฟต่างๆออกให้หมดก่อน ต่อมาก็ลอกฟิลม์กันรอยที่ป้องกันรอยขีดข่วนออก คราวนี้เพื่อนลองมองไปที่ขอบของจอ LCD Notebook เพื่อนๆจะเห็นเม็ดกลมๆ ที่เป็นยางแข็งๆ? เขาเรียกว่ายางกันกระแทกนะครับ ลองมองหาดูนะครับ จะมีอย่างน้อย 6 ตัวเป็นอย่างต่ำ ให้งัดออกมา โดยใช้ไขควงเล็กๆ ค่อยๆงัดอย่างระมัดระวัง อย่างัดแรง เพราะมันจะกระเด็นหายนะครับ ตรงจุดที่งัดยางกันกระแทกออกมาเพื่อนๆจะเห็นน๊อตอยู่ภายในรู ให้ใช้ไขควงขันออกมา แล้วเก็บรวบรวมไว้ระวังหายนะครับ ตอนนี้เพื่อนๆสามารถค่อยถอดกรอบจอ LCD Notebook ออกมาได้แล้ว หลังจากนั้นก็ปลดสาย Connector ทั้งหมดซะ แต่ยังยกจอ LCD Notebook ออกมาไม่ได้นะ ต้องขันน๊อตที่อยู่ตรงด้านข้างของจอ LCD Notebook ด้วยจะมีอยู่ประมาณ 4 – 5 ตัว แค่นี้ก็ยก จอ LCD Notebook ออกมาได้แล้วครับ











การแกะคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊ค เครดิตเว็บ www.repair-notebook.com/

วิธีการแกะคีย์บอร์ด (Keyboard)โน๊ตบุ๊ค (repair laptop keyboard)


สวัสดีครับเืพื่อนสำหรับวันนี้ผมขอแนะนำสั้นๆ นะครับ เอาเป็นว่าเพื่อนๆดูจากรูปเป็นแนวทางความรู้เอาไปพิจารณาจากเครื่องโน๊ตบุ๊คที่อยู่ในมือของเพื่อนๆกันว่า เป็นลักษณะแบบที่ผมนำมานำเสนอหรือไม่นะครับ?? นั่นก็คือวิธีที่จะแกะคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คออกมานั่นเองครับ





วิธีที่ผมนำมาเสนอนี้? จะเป็นวิธีที่เราจะนำคีย์บอร์ดของโน๊ตบุ๊คออกจากเครื่อง? โดยส่วนใหญ่แล้ว โน๊ตบุ๊คในปัจจุบันจะใช้สลักในการล๊อคแผ่นคีย์บอร์ดไว้ ดังในรูปนะครับ? ก่อนที่เพื่อนๆจะถอดก็พิจารณาดูตรงตำแหน่งในแนว หรือลักษณะที่ผมแนะนำตามรูปครับ? ก็จะได้ไม่หลงประเด็น ไปทำการงัดซะแตกหักจนเสียหายไป
ทีนี้เราจะมาแกะกันทำไม




ในฐานะช่างคงไม่ต้องถามว่าทำเพื่อนอะไรนะครับ

แต่ถ้าเป็นผู้ใช้ทั่วๆไป….
ผมคงให้คำตอบในแนวหนึ่งว่า สมมติว่ามีน้ำหยดลงเครื่องตรงตำแหน่งคีย์บอร์ด? วิธีที่เร็วที่สุดคือ ปิดเครื่อง ดึงสายไฟอะแดปเตอร์ , ดึง แบตเตอรี่ออก แล้วทำการคว่ำหน้าของคีย์บอร์ดลงพื้นเพื่อให้นำไหลออกมา? ถ้าเราทำได้เร็ว ก็จะช่วยให้น้ำไม่ลงไปในเครื่องครับ? และถ้าเพื่อนๆได้แนวความรู้จากบทความที่ผมเขียน? ก็จะได้ทำการถอดคีย์บอร์ดออกไปทำความสะอาดได้ทัน?? เช่นอาจนำไปเป่าให้แห้ง เป็นต้น (นี่คงเป็นวิธีการอย่างหนึ่งเท่านั้น จากหลายๆวิธีนะครับ)
ภาพคลิ๊ปการแกะคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊ค









สำหรับมือใหม่หัดใช้ Windows 8




No Start Buttom Windows 8


ถ้าคุณยังไม่เคยใช้ Windows 8 และต้องการอัพเกรด Windows เวอร์ชั่นปัจจุบันมาเป็น Windows 8 แนะนำให้อ่านข้อมูลพื้นฐานเกี่ียวกับ Windows 8 เสียก่อน เพราะมิฉะนั้น คุณอาจหาทางออกจากโปรแกรมหรือทำอะไรไม่ได้เลย เหตุผลหลักๆ ก็คือ Windows เอง ไม่ได้มีปุ่ม START ที่อยู่มุมซ้ายล่างแล้ว ดังนั้น ถ้าต้องการจะเข้าเมนู START จะต้องกดปุ่มเครื่องหมาย Logo Windows บนแป้นพิมพ์ ก็จะพบกับหน้าต่าง ที่เต็มไปด้วยไอคอนโปรแกรมต่างๆ หรือที่เราเรียกว่า Metro Styleนั่นเอง


ไขความลับ Windows 8 สำหรับมือใหม่
ทำความรู้จักการใช้โปรแกรมบน Windows 8


Windows 8 คือระบบปฏิบัติการ หรือ OS (Operating System) ล่าสุดจาก Microsoft ที่มีการพัฒนาต่อยอดมาจาก Windows 7 แต่เนื่องด้วยกระแสของแท็บเล็ตที่มาแรง จนทำให้ Microsoft ต้องหันมาพัฒนา Windows ให้ครอบคลุมทั้ง Computer Desktop / Laptip รวมทั้ง Tablet ด้วย ดังนั้น Windows 8 จึงเกิดเป็นลูกผสม ระหว่าง Windows ปกติ กับ แท็บเล็ต
โปรแกรม Windows 8 แบ่งเป็น 2 ประเภท


อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น Windows 8 เหมือนลูกผสม ดังนั้น โปรแกรมที่ทำงานภายใต้ Windows 8 สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท นั่นคือ
โปรแกรมที่รันบนคอมพิวเตอร์ปกติ? เช่น Microsoft Office เป็นต้น
โปรแกรมที่เราเรียกว่า Apps (Applications) ที่มีลักษณะเช่นเดียวกับ Apps บนโทรศัพท์มือถือ นั่นเอง เราเรียกรวมๆ ว่า Metro Style


ดังนั้น เวลาจะใช้งาน เราจำเป็นจะต้องเข้าใจก่อนว่า ณ ขณะนั้น เรารันโปรแกรมที่ส่วนไหน เพราะถ้าเป็นโปรแกรมปกติที่เราทำงาน ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็น แอพฯ หล่ะ จะทำงานอย่างไร ในเมื่อคอมฯ ของเรายังไม่ใช่ Touchscreen
การใช้งาน แอพฯ บน Metro Style
Windows 8 Metro Style


สามารถใช้งานแอพฯ ได้โดยใช้เม้าส์ ถึงแม้ว่าจะไม่มีหน้าจอแบบ Touchscreen ก็ตาม อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถ download แอพฯ ได้เพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของ Microsoft อีกด้วย ลองคลิกไปที่นี่ได้ครับ http://windows.microsoft.com/en-US/windows-8/apps
ทิปการใช้ Windows 8 เบื้องต้น
เรียกหน้าจอ Metro Style
ขึ้นมาแสดง สามารถทำได้โดย กดปุ่มไอคอน Windows บนแป้นพิมพ์ หรือ ลากเม้าส์ไปมุมขวาบนสุดของหน้าจอ
เรียกหน้าจอปกติ
เมาส์แตะที่ไอคอน Desktop จะเข้าหน้า Windows เหมือนปกติ? หรือ กดปุ่ม Windows + D
เรียกดู Windows Explorer
กดปุ่มบนแป้นพิมพ์? ปุ่ม Windows + E
วิธีปิดหน้าจอแอพฯ บน Metro Style


เนื่องจาก แอพฯ ที่ทำงานอยู่นี้เป็นแบบที่มีลักษณะเดีียวกับแอพฯ ทีทำงานบนอุปกรณ์โมบาย และไม่มีเครื่อง X (กากบาท) ให้ปิดเหมือนบน Windows ที่ทำงานบนคอมฯ ทั่วไป ดังนั้น เวลาต้องการปิดแอพฯ ให้กด Alt+F4 หรือ เลื่อนเม้าส์ไปมุมบนซ้ายสุดจะเห็นหน้าต่างแสดงแอพฯ ที่เปิดค้างอยู่ (Switch List Bar) เลือกแอพฯฯ ที่ต้องการปิด คลิกขวา เลือก Close

สอนการใช้ windows7เบื้องต้น





windows7 คืออะไร


Windows 7 เป็นระบบปฎิบัติการ (Operating System) ของทาง Microsoft ที่ได้ทำการพัฒนาต่อเนื่องมากจาก Windows 98 , Me , 2000 , XP ,Vista จนมาถึงปัจจุบัน คือ Windows 7 นั้นเอง โดยกลุ่มเป้าหมายของWindows 7 นี้ก็คือบุคคลทั่วไป ตามองค์กร ตามบ้าน ที่ใช้คอมพิวเตอร์ โดยWindows 7 จะเป็นระบบปฎิบัติการที่เอามาลงบน Hardware อีกทีึ โดยทาง Microsoft ได้ใช้ภาษา C , C++ ในการพัฒนา


Windows 7 นั้นได้ออกมาหลาย Edition เหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นตัวWindows 7 Starter, Window 7 Home Basic,Windows Home Premium,WIndow 7 Professional,Windows 7 Enterprise,Windows 7 Ultimate โดยของแตกต่างระหว่าง Editions ของ Windows 7 นั้นก็คือ การเพิ่ม Functions และลูกเล่นในการทำงานครับ ซึ่งถ้าเราจ่ายเงินเพิ่มมากยิ่งขึ้นเราก็จะได้ฟังก์ชั่นในการทำงานหรือลูก เล่นเพิ่มขึ้นนั้นเองครับ



สอนการประกอบคอม เครดิตเว็บ www.freewarelands.com


สวัสดีครับเพื่อน ๆ สบายกันนี้เน๊อะ ช่วงนี้โรคอะไรก็ไม่รู้แปลก ๆ ใหม่มากันเยอะแยะไปหมด ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ สำหรับบทความนี้จริง ๆ ทำไว้เพื่อจะส่งไปลงในนิตยสารฉบับหนึ่ง แต่แบบว่าเปลี่ยนใจ เอามาให้เพื่อน ๆ อ่านฟรีกันดีกว่ามาเริ่มกันเลยนะครับ
ก่อนอื่นต้องทำใจบอกตัวเองก่อนว่าการประกอบคอมพิวเตอร์สักตัวนั้นมันไม่ได้ยากเย็นอย่างที่หลาย ๆ คนคิด เพราะมันไม่ต้องเชื่อม ไม่ต้องบัดกรี ไม่ต้องใช้ความรู้ทางด้านวิศวกรรมใด ๆ ใช้แค่ใจกับไขควงปลายแฉกขนาดกลางกับไขควงปากแบน ก็พอ พอทำใจได้แล้วก็มาเริ่มกันเลยครับ…

1.ขั้นแรกก็ให้เราเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้เรียบร้อยนะครับ คือ Mainboard,CPU,RAM,DVD-rw,case,สายสัญญาณต่าง ๆ เอามาวางเป็นชุด ๆ ให้หยิบง่ายๆ
-นำเมนบอร์ดออกจากกล่องให้เรียบร้อยใช้แผ่นโฟมหรือซองกันไฟฟ้าสถิตย์ รองบอร์ดกับพื้นโต๊ะ (โต๊ะที่ใช้ประกอบคอมควรเป็นโต๊ะไม้ เพื่อป้องกันไฟฟ้าสถิตย์อันอาจจะทำให้อุปกรณ์เสียหายได้)

2.เรามาเริ่มติดตั้ง CPU กันก่อนตัวที่นำมาสาธิตเป็น LGM 775 ครับหน้าตาก็อย่างที่เห็น เพื่อน ๆ จะเห็นกระเดื่องที่ใช้ Lock ฝาครอบ CPU อยู่ก็ง้างมันออกมา โดยการกดคานกระเดื่องลงเล็กน้อยแล้วเลื่อนมันออกมาให้พ้นตัว Lock แล้วยกขึ้น

3.เราก็จะเปิดฝาครอบ CPU ได้ครับอย่าลืมเอาแผ่นพลาสติกที่ครอบอยู่ด้านบนออกด้วยหล่ะ

4.จากนั้นนำ CPU ออกจากกล่อง คุณจะรู้ได้ทันทีว่าต้องวาง CPU ไปในทิศทางไหน (ดูตรงรอยบากตรง CPU กับ Socket หรือสังเกตุตรงที่ผมล้อมกรอบสีเหลืองไว้แหละครับ ถ้าคุณวางผิดด้านมันจะไม่ลง ล็อกกันอยู่แล้ว

5.ดูกันให้จะ ๆ ว่าวางแบบไหนนะจ๊ะ

6.เสร็จแล้วก็ปิดฝาครอบล็อกกระเดื่องให้เรียบร้อย

7.จากนั้นก็นำพัดลมมาวางตรงด้านบน(สังเกตุใต้พัดลมจะมี ซิลิโคนระบายความร้อนอยู่ขนาดจะเท่ากับ ส่วนของCPU ที่เว้นไว้จากฝาครอบพอดีวางให้ตรงแล้วกดขาของพัดลมให้ลงไปในรูบนเมนบอร์ดแล้วหมุนขาพัดลมทุกข้างไปทางขวาจนมีเสียง “กริ๊ก” เบา ๆ

8.เมื่อหมุนแล้วยกด้านหลังมาดูก็จะเป็นดังภาพนี้ รับรองได้ว่าพัดลมไม่หลุดออกจากบอร์ดแน่นอนครับ

9.หลังจากนั้นก็เก็บสายไฟพัดลมให้เรียบร้อยและเสียบสายไฟเข้ากับช่อง CPU FAN ซึ่งอยู่แถว ๆ Socket CPU นั่นเอง

10.เสร็จสิ้นขั้นตอนการติดตั้ง CPU บอกแล้วว่ามันง่าย มากๆๆ

11.หลังจากนั้นก็ติดตั้ง RAM ครับ ง่ายเหมือนกัน คือง้างตัวล็อกแรมทั้ง 2 ข้างออก มองรอยบากของแรมกับ Slot ให้ตรงกันค่อย ๆ วางแรมลงไปแล้วกดทีละข้าง ขาล็อกแรมก็จะขึ้นมาล็อกแรมเองโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าคุณใส่ผิดข้าง คุณจะกดลงได้เพียงข้างเดียว อย่าไปฝืนกดมันเป็นอันขาด ถ้าไม่แน่ใจให้ลองกลับข้างแล้วกด ดูใช้แรงกดไม่มากถ้าใส่ถูกมันจะเข้าไปเองครับ

12.เสร็จสิ้นขบวนการใส่ RAM

13.มาดูสาย Power กันบ้างที่ต้องใช้ก็มี 3 แบบหลัก ๆ
1. สาย Power 24 Pin สำหรับต่อเข้า Mainboard
2.สาย Power สำหรับ cPU
3.สาย Power สำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ
ส่วนสี ๆ ดำ ๆ นั่นสำหรับ VGA แบบ PCI-E มีเฉพาะบางรุ่นที่ต้องการ ไฟเลี้ยงเพิ่ม

14.สาย Power 24 Pin สามารถถอดแยกได้ ในกรณีที่ Mainboard ใช้ Power แบบ 20 Pin ก็ให้สังเกตุดูจากบนเมนบอร์ดนะครับ ส่วนสาย Power สำหรับ CPu ก็อย่าลืมเสียบเป็นอันขาดไม่อย่างนั้นเปิดเครื่องไม่ติดแน่ ๆ

15.ดูกันอีกที่ ซ้ายไปขวา
-PCI-E สำหรับ VGA CARD ที่ต้องการพลังงานจาก Power supply เพิ่ม (ส่วนใหญ่เป็น VGA พลังสูงสำหรับการเล่นเกมส์)
-สายไฟลสำหรับ Floppy disk
-สายสำหรับอุปกรณ์แบบ SATA
-สายสำหรับอุปกรณ์แบบ IDE หรือ มาตฐาน

16.เสียบไฟเลี้ยง CPU

17.เสียบไฟเลี้ยง Mainboard ตอนนี้อุปกรณ์ของเราก็พร้อม ทดสอบแล้วครับ ให้เสียบปลั๊ก Powersupply ได้เลย

18. จากนั้นใช้ไขควงปากแบน แตะที่ขาที่เขียนว่า PW หรือ Power บนเมนบอร์ด เพื่อเปิดการทำงาน อย่าลืมเสียบลำโพงที่ช่อง SPK ด้วยเพื่อจะได้รู้ว่ามี Error อะไรหรือเปล่า อ่อ อย่าลืมเสียง สายสัญญาณ VGA เข้ากับจอด้วยนะครับ

19. รอสักพัก……(ลุ้นๆๆๆ)… “ติ๊ด” เสียงสวรรค์มาแล้วเมื่อได้ยินเสียงพร้อมกับเห็นภาพขั้นตอนการ POST (Power On Self Test) นั่นแสดงว่าเราประกอบ CPU และ RAM ได้ถูกต้องแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็เตรียมประกอบลงเคสได้เลย

20.เคสที่เราเพิ่งซื้อมาถ้าจะให้ดีแนะนำให้เปลี่ยน Power supply ที่ติดมากับเคนให้เป็นรุ่นเกรด A หรือกำลัง WATT สูง ๆ (ราคาประมาณ 800-1,000) บาท เพราะจะใช้ทนนานกว่าและไม่ทำให้อุปกรณ์ของเราเสียเร็ว

21.เปิดฝาทั้ง 2 ข้างของ เคสออกก็จะเห็นสาย ไฟนัวเนียไปหมด แต่ละเส้นก็จะมีเขียนกำกับไว้ว่าต่อกับขาใด บนบอร์ด ไม่ยากครับถ้าไม่รู้ก็เปิดคู่มือบอร์ดเอาก็ได้
หลัก ๆ ก็มี
PW-สาย Power
RES-RESET
HDDLED-สายแสดงการทำงานของ HDD
PWLED สายแสดงว่ามีไฟเข้าเครื่อง
SPK-ลำโพง
หรือบางบอร์ดจะเขียนต่างกว่านี้นิดหน่อย ก็ให้ลองอ้างอิงจากคู่มือเอานะครับ

22..ให้นำเมนบอร์ดวางทาบลงไปบนเคสส่วนใหญ่จะตรงกับจุดที่นูน ๆ ขึ้นมารองรับพอดี (แบบ micro ATX) ก็ให้หาแหวนรองน็อตสีแดง ๆ มาเตรียมไว้เพื่อป้องกันน็อตสัมผัสกับวงจรบนเคสครับ

23.จุดรองรับบนเคสครับ

24. อย่าลืมดู Panel ด้านหลังด้วยถ้าไม่ตรงกับ เมนบอร์ด ก็งัดออกแล้วเอาแผ่นที่แถมมากับบอร์ดใส่แทนนะครับ

25.เตรียมติดตั้งได้ (อย่าลืมเอาโฟมรองบอร์ดทุกครั้งเวลานำไปวางไว้ที่ไหน)

26.นำ เมนบอร์ดวางลงไปให้ตรงพอดีกับพาแนล แล้วขันน็อตทุกตัวที่อยู่ตรงกับ ปุ่มรองให้แน่นครับ

27.มาติดตั้ง DVD-ROM กัน ถ้าเคสสีดำแต่ใช้ DVD สีขาว มันก็ แหม่ง ๆ อยู่ มาเปลี่ยนหน้ากาก DVD-ROM กันครับ

28.ใช้ไขควงปากแบนกดตรงจุดล็อก ทั้ง 3 จุด

29. ซ้ายและขวาแล้วก็จะถอดหน้ากากออกมาอย่างง่ายดาย

30.ใส่สีใหม่เข้าไปแทนที่

31.จากนั้นก็ขันน็อตยึดให้แน่นทั้ง 2 ข้าง (ข้างละ 2 ตัวก็พอครับ)

32.เวลาเลือกใช้ตัวน็อต ดูด้วยนะครับ สำหรับ HDD กับ DVD-ROM ความยาว-สั้นมันไม่เท่ากัน อย่าใช้ตัวใหญ๋สำหรับยึด Mainboard มายึดนะครับ

33.เสียบสายสัญญาณ สายไฟ HDD,DVD-ROM ให้เรียบร้อยอีกครั้ง

34.เสียบสาย USB ด้านหน้าเคสด้วยนะครับ (ดูวิธีเสียบได้จากในคู่มือ ไม่ยากครับเป็นล็อกเสียบได้ทางเดียว)
เมื่อตรวจสอบทุกอย่างจนแน่ใจแล้วก็เสียบสายอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เรียบร้อยครับ Keyboard,mouse,power,VGA,ลำโพง แล้วก็เปิดเทส เพื่อติดตั้งและลงโปรแกรมได้เลย
เทคนิคการทำสอบอุปกรณ์ใหม่
เทคนิคนี้เรียกว่าการ BURN IN ครับคือเมื่อประกอบคอมเสร็จครั้งแรกและลงโปรแกรมเสณ้จใหม่ ๆ ให้คุณเปิดเครื่องทิ้งไว้ อาจเปิดเพลงเปิดหนัง หรือเปิดโปรแกรมประเภททดสอบเครื่องทิ้งไว้เป็นระยะเวลาประมาณ 3 วันครับ เพื่อทดสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระหว่างนี้ถ้าอุปกรณ์ตัวใดมีปัญหามันจะแสดงอาการทันทีก็ให้เรารีบนำไปเคลมได้ครับ
ก็จบไปเรียบร้อยแล้วนะครับสำหรับการประกอบคอมพิวเตอร์ ง่าย ๆ ใช่ไหมครับ พบกันใหม่ คราวหน้านะครับ
freewareboy
ขอบคุณ ร้าน Plug&Play นครปฐม เอื้อเฟื้อสถานที่และอุปกรณ์การถ่ายทำภาพประกอบนะครับ
โทร 081-8173702

อาการแรมเสียและวิธีแก้ไข

มีเสียงร้องหลังจากเปิดเครื่องและไม่มีภาพ มีสาเหตุดังนี้

1. เสียบ RAM ไม่แน่น
วิธีแก้ไข : ให้ลองเปิดฝาเครื่องแล้วขยับ RAM ให้แน่น

2. เกิดจากหน้าสัมผัสของ RAM ไม่สะอาด
วิธีแก้ไข : เปิดฝาเครื่องออกมาแล้วให้ลองขยับ RAM ให้แน่น ถ้ายังไม่หายให้ลองถอด RAM ออกมาทำความสะอาดหน้าสัมผัส โดยใช้ยางลบดินสอหรือน้ำยา

3. เกิดจากการเสียบ RAM ผิดแถว
วิธีแก้ไข : เมนบอร์ดบางรุ่นต้องเสียบ RAM ไล่จากแถวที่ 1 ขึ้นไป ให้ลองนำ RAM มาเสียบที่ Slot ที่ 1 และไล่ลงไปในกรณีที่มี RAM หลายแถว

4. RAM ที่ใส่ไปไม่ตรงกับชนิดที่เมนบอร์ดรับได้
วิธีแก้ไข : ตรวจสอบกับคู่มือเมนบอร์ดว่าเป็นชนิดที่ถูกต้องและขนาดที่ไม่เกินที่เมนบอร์ดกำหนดในแต่ละแถว ถ้าไม่ถูกให้นำ RAM ชนิดที่ถูกต้องมาใส่

5. เกิดจากความผิดผลาดของกระบวนการเช็คตอนเปิดเครื่อง ( POST) ของไบออส
วิธีแก้ไข:ในบางครั้งจะจดจำการติดตั้งฮาร์ดแวร์ในตำแหน่งต่างไว้และทำการตรวจเช็คทุกครั้งที่เปิดเครื่องดังนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง หรือสลับตำแหน่งของสล็อตที่เสียบอุปกรณ์ต่างๆ เครื่องอาจจะเช็คว่าเกิดความผิดผลาดได้ โดยที่จริง ๆ แล้วไม่ได้มีอุปกรณ์ใด ๆเสียเลยแต่เพราะเครื่องได้จดจำข้อมูลตำแหน่งของสล็อต ที่เสียบ ฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ไว้ แต่ยังไม่ได้ทำการอัพเดทหรือ รีเฟรช (Refresh ) ทำให้เมื่อเปิดเครื่องแล้วถึงขั้นตอนการตรวจสอบ เครื่องจะฟ้องว่าฮาร์ดแวร์
ผิดผลาด วิธีแก้คือ ให้ลองสบับแถวของ RAM แล้วลองเปิดเครื่องใหม่ เพื่อให้เครื่องจดจำตำแหน่ง หรือ Reset ไบออส โดยการถอด ถ่านของไบออสบนเมนบอร์ดออกสักครู่หนึง แล้วกลับเข้าไปใหม่ จากนั้นลองเปิดเครื่องใหม่อีกครั้ง

6. RAM เสีย
วิธีแก้ไข : ให้ลองนำ RAM ตัวอื่นที่ใช้ได้มาเสียบแทนในช่องเดียวกัน ถ้าหากใช้ได้แสดงว่า RAM เสีย ถ้า RAM เสียก็ต้องซื้อมา เปลี่ยนสถานเดียว

เปิดเครื่องแล้ว แต่ Test Memory (RAM) ไม่ผ่านมีสาเหตุดังนี้

1. สล็อตเสียบ RAM เสียหรือเสียมคุณภาพ
วิธีแก้ไข : เป็นไปได้ที่เมื่อใช้ไปแล้ว สล็อตเสียบ RAM เสื่อมคุณภาพ ให้ลองย้าย RAM ไปใส่ในสล็อตอื่นแล้วลองบู๊ตเครื่องใหม่

2. RAM เสียหรือเสียมคุณภาพ
วิธีแก้ไข : ให้ลองนำ RAM ตัวอื่นที่ใช้ได้มาเสียบแทนในช่องเดียวกันถ้าผ่านแสดงว่า RAM เสีย ก็ต้องซื้อมาเปลี่ยนใหม่

ใช้แล้วเครื่องแฮงก์ง่ายมีสาเหตุดังนี้
1. อาจเกิดจากการตั้งค่าความถี่ที่ใช้กับ RAM ไม่ถูกต้อง
วิธีแก้ไข : ดูที่สเปค (Spec) ของ RAM สามารถทำงานที่ความถี่เท่าไร และให้ตั้งให้ถูกต้อง โดยเซ็ทที่ BIOS หรือเมนบอร์ด บางรุ่นต้องเซ็ทที่ Jumper บนเมนบอร์ด โดยสามารถดูรายละเอียดจากคู่มือของเมนบอร์ดนั้นๆ ได้

2. อาจเกิดจากการตั้งค่าการหน่วงเวลา (Wait state) ไม่ถูกต้อง
วิธีแก้ไข : กลับไปตั้งค่าให้ถูกต้องเหมือนเดิม หรือตั้งค่าเป็นแบบ by SPD จะสะดวกที่สุด

3. อาจเกิดจากการเลือกคุณสมบัติพิเศษ เช่น Fast page , EDO ไม่ถูกต้อง
วิธีแก้ไข : ควรศกษาคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ ให้เข้าใจอย่างละเอียดก่อนที่จะเลือกใช้คุณสมบัตินั้น ๆ ถ้าไม่แน่ใจให้แก้กลับมาที่ Load Detault Setup หรือ Disable เพราะถ้าเลือกใช้คุณสมบัติพิเศษ โดยที่ RAM ตัวนั้นไม่รองรับ ก็จะทำให้เกิดความผิดพลาดในการทำงานได้

4. อาจเกิดจาก Clip RAM ร้อนเกินไป
วิธีแก้ไข : ในกรณีทีบางครั้ง RAM ทำงานหนักและเกิดอาการร้อนเกินไปจะทำให้เกิดการทำงานผิดพลาดได้ ดังนั้นถ้าต้องการเสถียรภาพ ในการทำงานมากขึ้น เราควรปรับปรุงระบบระบายความร้อนภายในเครื่องคอมพ์ให้ดีขึ้น เช่น เพิ่มพัดลมระบายความร้อนภายในเครื่อง วางคอมพ์ไว้ในที่ที่มี อากาศถ่ายเทได้สะดวกหรือห้องแอร์ก็จะยิ่งดี

5. อาจเกิดจาก RAM เสื่อม
วิธีแก้ไข : RAM บางตัวที่ใช้งานไปนาน ๆ Clip บางตัวบน RAM อาจเสื่อมได้โดยที่เครื่องยังสามารถทำงานได้ตามปกติ แต่เมื่อเครื่อง ได้ใช้งานมาถึงตำแหน่งที่เสื่อมบนแรมตัวนั้น จะทำให้เกิดการทำงานผิดพลาดได้ วิธีแก้คือ ลองถอด RAM ตัวที่คิดว่าเสื่อมออก และนำ RAM ตัวอื่นที่ดีมาใส่แทน และลองใช้งานดู ถ้าทำงานได้ตามปกติแสดงว่า RAM ตัวนั้นเสีย ให้ซื้อตัวใหม่มาเปลี่ยน หรือถ้าอยู่ในระยะประกันให้ลองเปลี่ยนตัวใหม่ แต่อาการแบบนี้ขอบอกว่าพิสูจน์ยากนิดนึง บางครั้งเราต้องรอจังหวะ

ขนาดของ RAM เมื่อใช้งานน้อยกว่าขนาดที่แท้จริงมีสาเหตุดังนี้

1. เสียบ RAM ที่มีขนาดเกินกว่าที่ช่องเสียบ RAM นั้นรับได้
วิธีแก้ไข : เมนบอร์ดบางตัวจะกำหนดขนาดของ RAM สูงสุดต่อแถวที่เสียบได้ในแต่ละช่องสล็อต ดังนั้นควรอ่านคู่มือของเมนบอร์ดดูก่อนว่าสล็อตใดเสียบ RAM ที่มีขนาดสูงสุดได้เท่าไร เช่น เมนบอร์ดบางรุ่น ช่องเสียบ RAM แถวที่ 1ใส่ RAM ได้สูงสุดไม่เกินแถวละ128 MB ถ้าเรานำ RAM ขนาด แถวละ 256 MB มาใส่เครื่องจะไม่สามารถรับได้หรือมองเห็นแค่เพียง 128 MB เท่านั้น

2. ขนาดของ RAM รวมทั้งหมดเกินกว่าที่เมนบอร์ดจะรับได้
วิธีแก้ไข : เมนบอร์ดทุกอันจะมีขนาดรวมของ RAM สูงสุดที่เมนบอร์ดรับได้ไม่ใช่ว่าจะสามารถซื้อ RAM มาใส่เท่าไรก็ได้ ควรอ่านคู่มือ ของเมนบอร์ดรุ่นนั้นด้วย

3. RAM บางส่วนถูกนำไปใช้ในด้านอื่น
วิธีแก้ไข : เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมนบอร์ดบางรุ่น ที่มีอุปกรณ์บางประเภท Onboard ซึ่งจะใช้หน่วยความจำร่วมกับ RAM ทำให้เมื่อเปิด ใช้งานเนื้อที่ของ RAM บางส่วนจะถูกจองไว้สำหรับใช้งานของอุปกรณ์ตัวนั้นโดยเฉพาะ จึงทำให้เวลาระบบปฏิบัติการแสดงผลขนาดของ RAM จะเหลือไม่เท่ากับ ขนาดที่แท้จริงของ RAM เช่น เมนบอร์ดบางรุ่นที่มี VGA Card Onboard และแจ้งว่ามี RAM ของ VGA Card ขนาด 16 MB แต่เมื่อใช้งานจะใช้เนื้อที่ของ RAM ที่เสียบลงไปบนเมนบอร์ด ดังนั้น ถ้าเราเสียบ RAM ขนาด 128 MB ลงไปบนเมนาบอร์ดจะเหลือ RAM ที่ใช้งานกับระบบจริงเพียง 128 MB คือ 112 MB

4. อาจเกิดจาก RAM เสื่อม
วิธีแก้ไข : เราสามารถดูตามอาการเสียของแรมที่ได้กล่าวมา ข้างต้น

RAM ที่มีความเร็วสูงแต่ทำงานที่ความเร็วต่ำ

1. เมนบอร์ดไม่สามารถรองรับ RAM ที่มีความเร็วสูงกว่าที่กำหนดได้
วิธีแก้ไข : ไม่สามารถแก้ได้ ถ้าต้องการให้ RAM ทำงานที่ความเร็วสูง ต้องซื้อเมนบอร์ดรุ่นที่รองรับได้ เช่น RAM ที่มีความเร็ว 133 MHz เมื่อนำมา ใส่เมนบอร์ดที่รองรับ RAM ที่มีความเร็วสูงสุดที่ 100 MHz RAM ตัวนั้นจะทำงานได้ที่ความเร็วแค่ 100 MHz

2. ไม่ได้ตั้งค่าที่ BIOS ให้ถูกต้อง
วิธีแก้ไข : ที่ BIOS จะมีเมนูสำหรับตั้งค่าความเร็วของ RAM ที่เราต้องการให้เราไปปรับค่าให้ถูกต้องหรือให้เลือกเป็น Auto

3. ไม่ได้เซ็ทค่าจั๊มเปอร์บนเมนบอร์ด
วิธีแก้ไข : เมนบอร์ดบางรุ่นจะมีการเซ็ทความถี่ของ RAM ที่จั๊มเปอร์บนเมนบอร์ดด้วย ให้ศึกษาด้วย ให้ศึกษาและเซ็ทตามคู่มือเมนบอร์ด

ปัญหาฮาร์ดิสก์เสีย เครดิตเว็บwww.ict456.com




ปัญหาฮาร์ดดิสก์เสีย ถือเป็นเรื่องน่าปวดหัวอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคนที่ต้องมีการเก็บข้อมูลมากมายอยู่เป็นประจำหรือยิ่งถ้าใครมีฮาร์ดดิสก์ลูกเดียว ถ้าเสียขึ้นมาก็ไม่รู้จะแบ็กอัพไปไว้ที่ไหน หากมีอาการให้รู้กันก่อนก็ดี แต่บางทีเล่นพังไปดื้อๆ ขณะใช้งาน ก็พาลให้เซ็งกันเลยทีเดียว ดังนั้นก่อนที่จะเกิดปัญหาจากฮาร์ดดิสก์พัง เราลองมาดูอาการเบื้องต้นกันก่อนว่า หากฮาร์ดดิสก์ใกล้เสีย จะมีอาการบอกเหตุอย่างไร แล้วสิ่งใดที่ควรต้องทำบ้าง

อาการแรก ระบบมองฮาร์ดดิสก์บ้างเป็นบางครั้ง ใช้งานอยู่ดีๆ ไดรฟ์ก็หายหรือบางทีติดๆ ดับๆ ที่ชัดเจนก็คือ เปิดเครื่องอยู่ดีๆ ก็ไม่สามารถเข้าวินโดวส์ได้ มีการฟ้องว่าไม่เห็นฮาร์ดดิสก์ที่ติดตั้งวินโดวส์เอาไว้แล้วแน่นอน ซึ่งถ้าใครมีฮาร์ดดิสก์อยู่หลายๆ ลูกก็ให้สังเกตที่หน้าจอไบออสตอนบูตเข้าเครื่องหรือเวลาที่เปิดเครื่องเข้าวินโดวส์มา ก็ให้ไปดูใน My Computer ว่าพบฮาร์ดดิสก์ทุกลูกหรือไม่

อาการที่สอง มีเสียงดังผิดปกติ ตามปกติแล้วเวลาที่ฮาร์ดดิสก์ทำงานจะไม่มีเสียงให้ได้ยินชัดเจนนัก ซึ่งอาจจะมีเสียงเบาๆ ขึ้นมาเล็กน้อย ตามจังหวะการเขียนข้อมูล ซึ่งถือว่าปกติ แต่ถ้าเมื่อใช้งานแล้วเกิดเสียงดัง เป็นจังหวะและอาจจะถี่ขึ้นเรื่อยๆ หรือนานๆ ทีก็ตาม ให้ถือว่าเริ่มมีอาการผิดปกติแล้ว เตรียมตัวสำรองข้อมูลไว้ได้เลย

อาการที่สาม อ่านหรือเขียนข้อมูลได้ช้ากว่าปกติหรือแจ้งเลยว่าไม่สามารถอ่านไฟล์ได้ ในขณะที่คุณใช้งานอยู่ มีการถ่ายโอนไฟล์ไปมา รวมถึงอาการ Error แบบบลูสกรีน าไม่สามารถอ่านไฟล์จากดิสก์ได้ ก็อปปี้ข้อมูลลงไปไม่ได้หรือช้าผิดปกติมากๆ ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนว่าฮาร์ดดิสก์อาจเกิด Bad Sector ขึ้นและอาจส่งผลลุกลามไปยังข้อมูลส่วนที่เหลือ หากเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ต้องรีบหาทางแก้ไขโดยด่วน

การแก้ไขเบื้องต้น
ในกรณีที่เปิดเครื่องขึ้นมาแล้ว ตรวจไม่พบฮาร์ดดิสก์ที่เชื่อมต่ออยู่ ซึ่งเป็นอาการของการ Not Detect ให้แก้ไขอย่างแรกคือที่สายสัญญาณในการเชื่อมต่อ ยังไม่จำเป็นต้องไปจัดการกับตัวฮาร์ดดิสก์โดยตรง ลองเปลี่ยนสายสัญญาณและสายไฟเลี้ยงที่ต่อเข้ากับฮาร์ดดิสก์เสียก่อน เพราะอาจเกิดจากสายหลวม หลุดหรือหักใน แล้วลองดูอีกครั้งว่าตรวจพบหรือไม่หรืออาจจะลองเปลี่ยนพอร์ตที่ต่อบนเมนบอร์ดดูก็ได้

แต่หากสายสัญญาณปกติดี กรณีที่ต่อฮาร์ดดิสก์ไว้หลายลูก ก็อาจจะสันนิษฐานว่า Power Supply จ่ายไฟได้ไม่พอ ให้ทดลองสลับหัวต่อ Molex ไฟเลี้ยงหรือถอดฮาร์ดดิสก์ออกให้เหลือน้อยลง ถ้าทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ก็แสดงว่า Power Supply ที่ใช้จ่ายไฟไม่พอ คงต้องอัพเกรดหรือเลือกลดจำนวนฮาร์ดดิสก์ในเครื่อง เอาลูกความจุต่ำออกหรือรวมข้อมูลไว้ในลูกใหญ่เพียงลูกเดียวเท่านั้น เหล่านี้คือ วิธีแก้ไขในเบื้องต้นที่ง่ายที่สุด